เคล็ดลับ เกี่ยวกับการนวดแก้อาการ ตอนที่ 2

วันนี้เราจะมาคุยต่อเนื่องจากเมื่อวาน แล้วอะไรทำให้ลมเกิดอาการผิดปรกติ ซึ่งก็คือ มูลเหตุที่ทำให้เกิดโรค8ประการนั่นเอง

1 อาหาร เป็นมูลเหตุแรกที่ทำให้เกิดโรค เพราะอาหารสมัยนี้เต็มไปด้วยสารเคมี ยาฆ่าแมลง สารกันบูดฯลฯและด้วยชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้เริ่มกินอาหารกล่องแช่แข็ง ซึ่งเราเรียกว่าอาหารที่ไม่มีชีวิตก็ว่าได้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง ทำให้เจ็บป่วยง่าย ดังที่เขาบอกไว้"กินน้อย โรคน้อย กินมากโรคมาก"

2 อิริยาบท เป็นมูลเหตุที่ทำให้เกิดโรค อันนี้คงไม่มีไครปฏิเสธ ทำไมเป็นเด็กเราไม่รู้สึกปวดเมื่อย เพราะร่างกายมีการเคลื่อนไหวตลอดทำให้เลือด-ลมไหลเวียนดี พอวัยทำงาน นั่งได้ที่ละ3-4ชั่วโมงบางทีก็ถึง8ชั่วโมง เราใช้ร่างกายเกินกำลัง ใหม่ๆก็ไม่เป็นไรหรอก พออีกสัก10ปี ก็ป่วยเงินทองที่หามาได้ก็หมดกับค่ารักษาพยาบาล

3 อากาศ มลภาวะอากาศสมัยนี้รู้ๆกันอยู่ว่าแย่เพียงใด อยู่บ้านนอกก็ค่อยยังชั่ว แต่ถ้าอยู่ในเมืองล่ะ?

4 การ"อด" เป็นอีกมูลเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรค เช่นอดข้าว อดน้ำ อดนอน เมื่อ อดนานเข้าร่างกายก็ป่วย

5 การ"กลั้น" ก็เป็นมูลเหตุให้เกิดโรคได้ เช่นการกลั้นอุจจาระ กลั้นปัสสาวะ ซึ่งนานเข้าอาจก่อให้เกิดโรคร้ายแรงเช่นมะเร็งได้

6 การที่"เกิน"หมายถึงเกินพอดี เช่นกินมากเกินไป นอนมากเกินไป ดื่มมากเกินไป ทำงานหนักเกินไป พอถึงวันหนึ่งร่างกายประท้วง ทีนี้อยากทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ

7 ความ"โกรธ" เป็นมูลเหตุที่ทำให้เกิดโรค เวลาเราโกรธ อย่างแรกคือขาดสติ แค่ตีกันก็กายบาดเจ็บแล้ว แค่ด่ากันใจก็เจ็บแล้ว ยังไม่ได้พุดถึงว่าเวลาโกรธสารเคมีในร่างกายเปลี่ยนเป็น"กรด"ซึ่งคนที่ขี้โกรธบ่อยๆจะป่วยง่าย แค่เบาะๆก็โรคกระเพาะ

8 ความ"โศกเศร้า"เวลาโศกเศร้า ร่างกายจะสูญเสียพลังชีวิต ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น ยิ่งพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก เช่น ลูก ทำให้เกิดอาการ"ช็อค" ทำให้ร่างกายเรียกว่าแก่ลงทันที10ปีเลยทีเดียว บางคนผมหงอกเลย

พอเลือด-ลมไหลเวียนไม่สะดวก ลมก็เกืดอาการขังก็จะไปดันเส้นให้เกิดอาการตึง เช่นบริเวณกระดูกสันหลัง ก็ส่งผลทำให้หลังแข็งก้มไม่ลง ซึ่งกระดูกสันหลังมีเส้นประสาททอดผ่าน ไปควบคุมอวัยวะต่างๆในร่างกาย ส่งผลทำให้ร่างกายผิดปรกติ แต่เป็นไปอย่างช้าๆ แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจเกิดหินปูนเกาะตามกระดูกสันหลังยิ่งแย่ไปใหญ่ อวัยวะภายในอ่อนแอลง เกิดโรคต่างๆ เช่น ความดัน เบาหวาน หัวใจ ไมเกรน หมอนรองกระดูกทับเส้นฯลฯ แต่อาการเหล่านี้ เราป้องกันได้ด้วยการออกกำลังกาย หรือกายบริหารต่างๆ ซึ่งคนไข้ต้องมีวินัยกับตนเอง คือพยายามทำทุกวัน
ที่นี้ก็มาคุยเคล็ดลับการนวดกัน ถ้าเรามโนภาพร่างกาย จะมีอยู่2ส่วน คือครึ่งล่าง และครึ่งบน โดยมีสะดืออยู่กลาง มีขา และมือ ซึ่งมีจุดหรือเส้นที่ให้แก้อาการคล้ายๆกัน เช่น มีฝ่าเท้าก็มีฝ่ามือ มีตาตุ่มข้อเท้า ก็มีตาตุ่มข้อมือ มีจุดใต้พับเข่าให้กดเพื่อแก้อาการ ก็มีพับศอกเหมือนกัน มีแนวกดจุดใต้รักแร้ ก็มีแนวกดจุดที่ขาด้านในบริเวณกลางขาหรือใกล้ขาหนีบ ซึ่งถ้าหมอนวดเข้าใจ ก็จะเห็นภาพและสามารถนวดได้ดีขึ้น

เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งที่ผมจะบอก คือเวลานวด ควรมี"สมาธิ" ซึ่งเวลาเกิดปัญหาเรื่องเส้นที่แก้ไม่ได้ ให้ตั้งคำถามในใจ แต่ไม่ต้องคิดคำตอบนะครับ เพราะถ้าคิดคำตอบ จะเป็นความรู้จาก"สัญญาเดิม" แต่ถ้าถามเฉยๆ แล้วนวดไปเรื่อยโดยมีสมาธิ บางทีจะเกิดความรู้จากข้างใน และจะเป็นความรู้ที่แก้ได้จริง ผมเองก็ได้รับความรู้นี้ บ่อยๆเวลาเกิดปัญหา